วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561

4.2 คุณธรรมและจริยธรรมจากคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ


คุณธรรมและจริยธรรมจากคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ






            

คุณธรรม จริยธรรมจากคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือเน้นการประพฤติ 
                  ปฏิบัติตนให้เป็นพลเมืองดี พร้อมที่จะนำความสุข ความเจริญ ความมั่นคงมาสู่บุคคลสังคม
และประเทศชาติ ดังนี้
                1.ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บุคคลสามารถปฏิบัติตนให้มีความซื่อสัตย์ต่อชาติ รักและหวงแหน ยอมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อให้ชาติเป็น เอกราชสืบไป อีกทั้งทำนุบำรุงศาสนาให้มั่นคงสถาพรสืบไปและปฏิบัติตนตามรอยพระยุคลบาทแห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ราษฎรด้วยความเสียสละ
              2.ความรับผิดชอบต่อหน้าที่บุคคลสามารถปฏิบัติกิจการงานของตนเองและที่ได้รับมอบหมายด้วยความมานะพยายามอุทิศกำลังกายกำลังใจอย่างเต็มความสามารถไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย
               3.ความมีระเบียบวินัย บุคคลสามารถเป็นทั้งผู้รู้และปฏิบัติตามแบบแผน ที่ตนเอง ครอบครัว และสังคม กำหนดไว้ โดยจะปฏิเสธกฎเกณฑ์หรือกติกาต่าง ๆ ของสังคมไม่ได้ คุณธรรมนี้ต้องใช้เวลาปลูกฝังเป็นเวลานาน และต้องปฏิบัติสม่าเสมอจนกว่าจะปฏิบัติเองได้และเกิดความเคยชิน
           4.ความซื่อสัตย์ บุคคลสามารถปฏิบัติตนทางกาย วาจา จิตใจ ที่ตรงไปตรงมา ไม่แสดงความคดโกง ไม่หลอกลวง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ลั่นวาจาว่าจะทำงานสิ่งใดก็ต้องทำให้สาเร็จ ไม่กลับกลอก มีความจริงใจต่อทุกคน จนเป็นที่ไว้วางใจของคนทุกคน
               5.ความเสียสละ บุคคลสามารถปฏิบัติตนโดยการอุทิศกำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังปัญญา เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมด้วยความตั้งใจจริง มีเจตนาที่บริสุทธิ์ เป็นที่รักใคร่ไว้วางใจ เป็นที่ยกย่องของสังคม ผู้คนเคารพนับถือ นำพาซึ่งความสุขสมบูรณ์ในชีวิต
              6.ความอดทน บุคคลสามารถปฏิบัติตนเป็นผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคใด ๆ มุ่งมั่นที่จะทางานให้บังเกิดผลดีโดยไม่ให้ผู้อื่นเดือดร้อน มีความอดทนต่อความยากลาบาก อดทนต่อการตรากตราทางาน อดทนต่อความเจ็บใจ อดทนต่อกิเลส
              7.การไม่ทำบาป บุคคลสามารถละเว้นพฤติกรรมที่ชั่วร้ายและไม่สร้างความเดือดร้อนให้ทั้งทางกาย วาจา ใจ
       8.ความสามัคคี บุคคลสร้างความสามัคคี รักใคร่ กลมเกลียวซึ่งนำไปสู่ความสงบร่มเย็นของครอบครัว สังคม ชุมชน และประเทศชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น